ภาวะช่องคลอดแห้ง สามารถเกิดขึ้นได้ในผู้หญิงทุกช่วงวัย เมื่อมีภาวะขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน แต่ส่วนใหญ่มักเกิดในผู้สูงอายุเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนไปแล้ว
ภาวะช่องคลอดแห้ง เกิดจากการที่ช่องคลอดไม่ยืดหยุ่น มีน้ำหล่อลื่นออกมาไม่เพียงพอ ทำให้เกิดความเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ และมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ การมีภาวะช่องคลอดแห้งอาจทำให้บางคนเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบซ้ำๆ บ้างก็มีอาการแสบร้อนและคันในช่องคลอดแม้ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ก็ตาม
ปกติในช่องคลอดของผู้หญิงจะมีน้ำหล่อลื่นที่มีลักษณะเป็นมูกเมือกใส ซึ่งมักเกิดจากการกระตุ้นของฮอร์โมนเอสโทรเจนที่สร้างจากรังไข่ มีหน้าที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่เยื่อบุผิวช่องคลอด ลดการเสียดสี ทำให้เกิดความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของช่องคลอด น้ำหล่อลื่นช่องคลอดจะหลั่งออกมามากเมื่อมีฮอร์โมนมากระตุ้นมากๆ หรือเมื่อมีการปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศ
มีปัจจัยหลายอย่างที่อาจส่งผลให้เกิดภาวะช่องคลอดแห้งได้ ดังนี้
1. ฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ
เป็นสาเหตุหลักของการเกิดภาวะช่องคลอดแห้ง เพราะฮอร์โมนเอสโทรเจนเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เยื่อบุภายในช่องคลอดมีการหลั่งเมือกออกมาหล่อลื่น และทำให้ช่องคลอดมีสุขภาพดี
ปัจจัยที่สามารถทำให้ระดับเอสโตรเจนลดต่ำลง มีดังนี้
2. การสวนล้างช่องคลอด
การใช้สบู่ โลชั่น และน้ำหอมสวนล้างช่องคลอดบ่อยๆ สามารถทำให้เกิดความระคายเคืองต่อความเป็นกรดด่างในช่องคลอด และทำลายเชื้อแบคทีเรียประจำถิ่น ส่งผลให้ช่องคลอดมีอาการแห้งและเกิดการติดเชื้อได้ง่าย
3. ยารักษาโรคบางประเภท
การใช้ยาบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงทำให้ช่องคลอดแห้งได้ เช่น ยาแก้แพ้ มีผลข้างเคียงทำให้ตัวแห้งและลดการหลั่งเมือกหล่อลื่นช่องคลอด ยารักษาโรคซึมเศร้าบางตัวอาจทำให้สารคัดหลั่งในช่องคลอดลดลง เป็นต้น
4. ความวิตกกังวล
ความเครียดและความวิตกกังวลสามารถส่งผลกระทบต่อความต้องการทางเพศและอาจนำไปสู่ภาวะช่องคลอดแห้ง
5. โรคเบาหวาน
โรคเบาหวานเป็นอีกโรคที่อาจส่งผลให้ช่องคลอดแห้งเนื่องจากน้ำหล่อลื่นในช่องคลอดลดลง การติดเชื้อที่ช่องคลอด และมีความต้องการทางเพศต่ำจากระดับของน้ำตาลและฮอร์โมนที่ผันผวน
6. Sjogren’s Syndrome
เป็นโรคที่มีภูมิต้านทานตนเองผิดปกติ พบได้ไม่บ่อย โรคนี้สามารถก่อให้เกิดอาการตาแห้ง ปากแห้ง และช่องคลอดแห้งได้
7. ความต้องการทางเพศต่ำ
ความต้องการเพศต่ำหรือปัญหาทางเพศอื่นๆ อาจทำให้ทำเกิดภาวะช่องคลอดแห้ง และในทางกลับกัน ภาวะช่องคลอดแห้งก็อาจทำให้ความต้องการทางเพศต่ำลงด้วย
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเป็นสาเหตุของภาวะช่องคลอดแห้งระหว่างตั้งครรภ์ได้ และคุณแม่ที่ให้นมลูกเองจะมีสิทธิ์พบอาการนี้ได้มากกว่า รวมถึงภาวะฮอร์โมนเพศหญิงต่ำก็มีสิทธิ์ทำให้เกิดภาวะช่องคลอดแห้งระหว่างตั้งครรภ์ได้เช่นกัน
หากคุณมีภาวะช่องคลอดแห้ง แพทย์จะทำการตรวจภายในเพื่อตรวจดูว่าผนังในช่องคลอดของคุณมีอาการบาง ซีด แดงหรือไม่ นอกจากนี้คุณอาจจะต้องตรวจระดับฮอร์โมนว่าคุณเข้าสู่ช่วงวัยหมดประจำเดือนแล้วหรือไม่ หรือแพทย์อาจเก็บตัวอย่างตกขาวมาตรวจเพื่อหาสาเหตุของอาการช่องคลอดแห้งอย่างรุนแรง
การรักษาภาวะช่องคลอดแห้งในผู้ป่วยแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับสภาวะของแต่ละบุคคล มีแนวทางการรักษา ดังนี้
1. การใช้เจลหล่อลื่นและครีมทา
ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้บริเวณช่องคลอดเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมงหรือเกือบทั้งวัน คุณสามารถใช้เจลหล่อลื่นช่องคลอดละลายน้ำระหว่างมีเพศสัมพันธ์ เพื่อช่วยบรรเทาภาวะช่องคลอดแห้งได้
2. การใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจน
ฮอร์โมนเอสโตรเจนในรูปแบบครีมทาสามารถช่วยบรรเทาอาการของภาวะช่องคลอดแห้งได้ โดยฮอร์โมนชนิดนี้มีทั้งในรูปแบบยาเม็ด ครีมทา ยาเหน็บ หรือวงแหวน ซึ่งสามารถสอดเข้าไปในช่องคลอดได้เลย
3. ลดการสูบบุหรี่ และหมั่นผ่อนคลายจากความเครียด
บุหรี่และความเครียดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะช่องคลอดแห้งได้ ควรลดหรือเลิกบุหรี่ และหมั่นทำกิจกรรมเพื่อความเพลิดเพลินเมื่อเกิดความเครียด เช่น เล่นเกม ดูหนัง ไปเที่ยว เป็นต้น
4. การมีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ
มีการศึกษาพบว่าสตรีที่มีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอจะมีอาการที่สัมพันธ์กับช่องคลอดแห้งน้อยกว่า เนื่องจากมีการเพิ่มเลือดไปเลี้ยงยังบริเวณอุ้งเชิงกราน และช่วยคงความยืดหยุ่นของช่องคลอด อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่าความถี่เท่าใดถึงจะช่วยได้ดีที่สุด
5. การใช้เลเซอร์ชนิด Fractional CO2
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้เลเซอร์ในการรักษาแบบฟื้นฟู โดยเครื่องจะปล่อยแสงเลเซอร์ออกมาแบบ 360 องศา เพื่อไปกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสท์ ทำให้ผลิตและจัดเรียงเส้นใยคอลลาเจนได้ดียิ่งขึ้น เซลล์ช่องคลอดผลิตสารคัดหลั่งเพิ่มขึ้น และเกิดความชุ่มชื้นขึ้นตามมา การทำเลเซอร์ชนิดนี้ไม่เจ็บ ไม่ต้องดมยาสลบ และใช้เวลาไม่นาน หลังทำสามารถทำกิจกรรมประจำวันได้ตามปกติ
หน้าที่เข้าชม | 2,174,007 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,868,784 ครั้ง |
เปิดร้าน | 22 ก.พ. 2561 |
ร้านค้าอัพเดท | 7 ก.ย. 2568 |